欢迎大家一起学习中文

ภาษาจีนไม่ยากอย่างที่คิด ฝึกฝนวันละนิดความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินฝัน

大家好. da4 jia1 hao3 ต้าเจียห่าว สวัสดีทุกคน

คนที่เริ่มศึกษาภาษาจีน ก็จะเห็นบทเรียนภาษาจีนแต่ละที่ เมื่อเขียนอักษรจีน ก็จะมีตัวหนังสือภาษาอังกฤษกำกับอยู่ด้านข้าง หรือด้านล่าง และอาจจะมีขีดๆ ข้างบนตัวหนังสือ หรือบางครั้งก็มีตัวเลขกำกับไว้ด้านหลัง ใช่มั้ยครับ

หลายคนอาจจะสงสัยอยู่บ้างว่า มันคืออะไร แล้วจะต้องอ่านอย่างไร ดังนั้นจะขออธิบายง่ายๆดังนี้

เราทราบกันแล้วว่าภาษาจีนเป็นภาษาภาพ คือ ตัวอักษรจีนแต่ละตัวเหมือนเป็นภาพวาดหนึ่งภาพ ที่ใช้แทนความหมายของคำต่างๆ ซึ่งไม่สามารถสะกด ออกมาเป็นเสียงได้
ดังนั้น เพื่อให้ผู้ศึกษาภาษาจีนสามารถทราบได้ว่า ตัวอักษรจีนแต่ละตัว อ่านออกเสียงอย่างไร คนจีนจึงใช้อักษรโรมัน มาสะกดเสียง และใช้ตัวเลข (หรือขีด) เป็นตัวบอกระดับเสียงสูงต่ำ เหมือนกับที่ภาษาไทยเราใส่ไม้เอก ไม้ไท เพื่อกำกับระดับเสียงนั่นเองครับ

ตัวอย่างเช่นni3
n คือตัว น.
i = สระอี
3 ก็เหมือนกับ ไม้เอก

ดังนั้น คำนี้ก็อ่านว่า ni3 = หนี่ นั่นเอง

1 = เสียงสามัญ เรียบๆ เหมือนไม่เติมอะไร เช่น เอา ไต ตา ลา เป็นต้น
2 = เสียงจัตวา ในภาษาไทย เช่น ขา หมา หนา ฉา เป็นต้น
3 = เสียงเอก นภาษาไทย เช่น ข่า ต่า ถ่า ป่า เป็นต้น
4 = เสียงโท ในภาษาไทย เช่น ต้า ล่า ม่า หน้า น่า ปู้ เย่า พ่า เป็นต้น

ต่อไปนี้คือตารางอักษรโรมันพินอิน ซึ่งต่อไปนี้จะขอเรียกสั้นๆ ว่าอักษร พินอิน นะครับ



นอกจากนี้ยังมีเสียงสระประสมอีกส่วนหนึ่ง แต่ก็มาจากสระพื้นฐานเหล่านี้มาผสมกัน เช่น

สระ ia = อีอา , ie = อีเอ , ioung = อีโอง ,ui = อูย เป็นต้น






เห็นอย่างนี้แล้วก็อย่าเพิ่งรีบถอดใจไปซะก่อนนะครับ จริงๆแล้วมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด
อย่างตัวผมเองเริ่มหัดพูดจากที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย เริ่มจากการจดคำอ่านเป็นภาษาไทยเอามาฝึกอ่าน ฝึกท่อง จำคำศัพท์กับความหมาย แล้วค่อยๆ มาปรับเปลี่ยนเสียงที่เราออกเสียงผิด แต่เมื่อรู้วิธีอ่าน พินอิน แล้ว ก็ไม่ใช้อักษรไทยสะกดเสียงอีกเลย แถมเวลาเห็นคนเขียนภาษาจีนด้วยอักษรไทยแล้วมันจะรู้สึกขำๆ แปลกๆ ยังไงไม่รู้ เพราะแต่ละคนก็พยายามจะสะกดให้ใกล้เคียง แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือน

เมื่อเราฝึกอ่านอักษรโรมันพินอิน (ตัวอ่านภาษาอังกฤษ) ที่กำกับอยู่กับอักษรจีนบ่อยๆ ก็จะทำให้เราชำนาญมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเองตอนแรกๆ ก็อาศัยคำอ่านภาษาไทย แต่เมื่อชินกับอักษรพินอินแล้ว ก็จะไม่ค่อยได้ใช้คำอ่านภาษาไทยอีกเลย เพราะมันเพี้ยนมาก

คำอ่านส่วนมากก็จะไม่ยากเลยครับ เพราะอ้างอิงเสียงมาจากภาษาอังกฤษ
จะมีแตกต่างอยู่ไม่กี่ตัวที่ต้องจำเช่น

b = ป ไม่ใช่ บ. ใบไม้
d = ต ไม่ใช่ ด. เด็ก
q = ฉ ไม่ใช่ ค. ควาย
u ออกเสียงว่า อวี ไม่ใช่ ยู
แบบนี้เป็นต้น
แรกๆ ก็งงบ้างเหมือนกัน แต่ใช้บ่อยๆ ก็ชินไปเองครับ รวมทั้งตัวเลขกำกับเสียงก็เช่นเดียวกัน

เอาละ พร้อมแล้ว เรามาเริ่มลุยศึกษาภาษาจีน และอักษรจีนกันเลย..........

0 comments